การสร้างชิ้นงานด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป Windows Movie Maker
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง : นักเรียนสามารถสร้างและนำเสนอชิ้นงานด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปได้
Windows Movie Maker เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างภาพยนตร์ของครอบครัวและการนำเสนอภาพนิ่งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ พร้อมทั้งชื่อเรื่อง ช่วงการเปลี่ยนภาพ ลักษณะพิเศษ ดนตรี หรือแม้กระทั่งคำบรรยายภาพแบบมืออาชีพ และเมื่อคุณสร้างเสร็จแล้ว คุณสามารถใช้ Windows Movie Maker เพื่อเผยแพร่ภาพยนตร์ของคุณและแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และครอบครัวของคุณ
Windows Movie Maker จะแบ่งออกเป็นสามพื้นที่หลักคือ บานหน้าต่าง กระดานเรื่องราว/เส้นเวลา และหน้าจอแสดงตัวอย่าง
ความสามารถของ Windows Movie Maker
- รองรับไฟล์ประเภท ภาพนิ่ง audio, video และ video จาก กล้อง digital, Video
- ตัดต่อหนังได้ตามความต้องการ โดยมีการแบ่งไฟล์ เป็น Movie Clip เล็ก
- เพิ่มเติมภาพนิ่งเข้าไปเป็นฉากเริ่มต้น (title) ได้
- ปรับแต่งความนุ่มนวลของภาพ ด้วยการซ้อน Movice Clip แต่ละอันเข้าด้วยกัน
- เปลี่ยนเสียงจากต้นฉบับมาเป็นเสียงของคุณเองได้ตามต้องการ
- บันทึกเป็นไฟล์ วีดีโอ ด้วยคุณสมบัติหลากหลายแบบ
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้งานได้
- Microsoft Windows Millennium Edition (ME) or Windows XP operating system
- 300 megahertz (MHz) Pentium II or equivalent
- 64 megabytes (MB) of RAM
- 2 gigabytes (GB) of free hard disk space
- An audio capture device
- A video capture device
เริ่มต้นการใช้งาน ดังนี้
1. เข้าใช้โปรแกรมที่ Start Menu ดังรูป
|
รูปที่ 1 หน้าต่างการเข้าใช้โปรแกรม Windows Movie Maker |
|
|
เมื่อ คลิกที่ เมนู Windows Movie Maker
เืมื่อนักเรียนเปิดหน้าต่างโปรแกรมแล้ว ให้เลือกเปิดโครงการใหม่ คลิกที่ New Project
|
รูปที่ 2 หน้าต่างสร้างโครงการใหม่ |
2. ในที่นี้จะเลื่อกการสร้างโครงการจากภาพนิ่ง โดยเลือกการนำเข้าภาพนิ่ง ในเมนู Import Pictures
|
รูปที่ 3 การนำเข้าภาพนิ่ง |
3. เมื่อเลือก Import pictures และ พบกับหน้าต่าง Import File เพื่อให้เลือกแฟ้มภาพที่ต้องการ ซึ่งมีวิธีการเลือก 3 วิธีดังนี้ - ถ้าต้องการเลือกทั้งหมด ให้ใช้คีย์ลัด Ctrl+A
- ถ้าเลือกเพียงบางส่วนที่แฟ้มเรียงชิดติดกัน โดยเลือกแฟ้มแรกที่ต้องการ
และกดปุ่ม Shift ค้างไว้ แล้วคลิกเม้าส์ที่แฟ้มสุดท้ายที่ต้องการ
- ถ้าแฟ้มภาพที่ต้องการ กระจายในตำแหน่งที่ห่างกัน ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้ว ให้นำเมาส์ คลิกแฟ้มภาพที่ต้องการ เมื่อได้แฟ้มภาพที่ต้องการแล้ว ให้คลิกที่ ปุ่ม Import เพื่อเป็นการนำภาพเข้าคอลเลคชั่น ผลได้ดังรูปที่ 4-5
|
รูปที่ 4 หน้าต่างการนำแฟ้มภาพที่ต้องการเข้าสู่คอลเลคชั่น |
|
รูปที่ 5 แสดงแฟ้มรูปภาพที่ทำการ Import pictures |
4.นำภาพที่เราเลือกเข้าสู่คอลเลคชั่น ให้ทำการเลือกแฟ้มภาพ ตามลำดับของเนื้อหา โดยการคลิกที่รูปภาพ แล้วลากรูปภาพวางที่ สตอรี่บอร์ด (story borad) ซึ่งเมื่อวางภาพแล้ว เราสามารถเลือกภาพเดิมที่เราเคยเลือกนั้นวางใน สตอรี่บอร์ด ได้อีกตามที่ต้องการ
|
รูปที่ 6 แสดงการวางภาพในสตอรี่บอร์ด ตามลำดับเนื้อเรื่อง
|
5.เมื่อจัดภาพตามลำดับเนื้อเรื่องเรียบร้อย โปรแกรมสามารถเพิ่ม เอฟเฟคให้กับรูปภาพ โดยเลือกในเมนูที่ 2 Edit Movie > video effect สามารถปรับแต่งรูปภาพด้วยเอฟเฟคที่มีในโปรแกรมได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของเนื้อหา ระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ หรือความต้องการในการสื่อสารความรุ้สึก ได้อย่างเป็นอิสระ เืมื่อเลือกได้แล้ว ให้คลิกแล้วลากวางที่สัญลักษณ์ รูปดาวที่มุมล่างซ้ายของรูปภาพใน สตอรี่บอร์ด (หนึ่งรูปภาพสามารถเพิ่มเอฟเฟคได้มากเท่าที่ต้องการ) ดังรูปที่ 7-8
|
รูปที่ 7 แสดงวีดีโอเอฟเฟค สำหรับตกแต่งภาพ |
|
รูปที่ 8 แสดงการวางเอฟเฟค และสามารตัด คัดลอก วาง และลบ เอฟเฟค
ได้เพียงแค่คลิกเม้าส์ปุ่มขวา
6.นอกจาการใส่เอฟเฟคให้กับรูปภาพแล้ว โปรแกรมนี้ สามารถสร้าง Video Transitions หมายถึงการปรับเปลี่ยนการแสดงผลของภาพจากภาพหนึ่งไปยังอีกภาพหนึ่ง ด้วย Video Transitions โดยการคลิกแล้วลากวางที่สตอรี่บอร์ดได้ทันที โดยวางระหว่างภาพ ในช่อง Video Transitions ดังรูปที่ 9 เช่นเดี่ยวกันนในหนึ่งภาพเราสามารถเพิ่ม ตัด คัดลอก หรือ ลบ Video Transitions ตามต้องการ ดังรูปที่ 10 เพียงคลิกเม้าส์ปุ่มขวา จะได้เมนูย่อย สำหรับการปรับแต่งตามความต้องการ |
|
รูปที่ 9 แสดงวีดีโอทรานซิชั่น ปรับแต่งเอฟเฟคการเปลี่ยนภาพ |
|
รูปที่ 10 แสดงการปรับแต่ง video transitons |
7.การนำเข้าเสียงหรือเพลงประกอบ เลือกที่ เมนูที่ 1 Import Audio or Music เพือนำเข้าูสู่คอลเลคชั่น
|
รูปที่ 11 แสดงเมนูการนำเข้าเสียง และเพลงประกอบการสร้างโปรเจค |
|
รูปที่ 12 แสดการเปิดโฟลเดอร์แฟ้มข้อมูลเสียงและเพลง |
|
รูปที่ 13 แสดงแฟ้มข้อมูลประเภทเสียงหรือเพลงที่ประำกอบในมูฟวี่ เป้น |
|
รูปที่ 14 แสดงไทม์ไลน์ของภาพและสียงที่สามารถปรับแต่งเวลาการแสดงผลได้ตามต้องการ |
8.
เมื่อนำเข้าแฟ้มเสียงแล้ว ให้คลิกเลือกที่ Show Timeline เพื่อลากวางแฟ้มเสียงใน Timeline ในส่วนของ Audio/Music ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับความยาวของเสียงประกอบได้ตามต้องการ โดยคลิกที่ปลายแฟ้มเสียง แล้วคลิกเม้าส์ซ้ายลากเพื่อกำหนดความสั้นยาวได้ตามต้องการ หรือตามความเหมาะสม
ดังรูปที่ 14-15
|
รูปที่ 15 แสดงการขยายเวลาสำหรับการแสดงผลภาพโดยการลากเม้าส์ที่ขอบด้านขวาของรูปภาพ
เพื่อปรับระยะเวลาแสดงผลตามต้องการ
9.การเพิ่มข้อความในสตอรี่บอร์ด โดยใช้เมนูที่ 2 Edit Movie เลือกที่ Make Titles or Credits ซึ่งสามารถปรับแต่งลักษณะรูปแบบตัวอักษร สี และพื้นหลัง อีกทั้งการปรับแต่งการแสดงผลของข้อความในลักษณะของแอนนิเมชั่น ได้อีกด้วย ดังรูปที่ 16-18
|
รูปที่ 16 แสดงเมนู Edit Movie เป็นเมนูสำหรับการปรับแต่งและเพิ่มเติมoptions
ในชิ้นงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
|
|
|
รูปที่ 17 แสดงหน้าต่างการสร้างข้อความในหน้าแรกของมูฟวี่ และการปรับแต่งตัวอักษร |
|
รูปที่ 18 แสดงหน้าต่างการปรับแต่ง การแสดงผลของข้อความในลักษณะ แอนิเมชั่น |
|
รูปที่ 19 แสดงผลการเพิ่มหน้าไตเติ้ลและหน้าเคดริต ของมูฟวี่ (หน้าแรกและหน้าสุดท้าย) |
10. นอกจากการนำเข้าแฟ้มภาพ เสียงและวีดีโอแล้ว โปรแกรมนี้สามารถทำการ บันทึกเสียงและภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยการ
Capture Video
|
รูปที่ 19 แสดงการบันทึกเสียงบรรยาน หรือเพลงประกอบ โดยการเลือกที่ Narrate Timeline |
11. เมื่อทำการสร้างชิ้นงานเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขึ้นตอนของการนำไปใช้ ด้วยการสร้างเป็นวีดีโอไฟล์ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงการบันทึก ในแบบ Save to my computer โดยการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล และเลือกตำแหน่งของการบันทึกแฟ้ม ซึ่งสามารถสร้างโฟลดเดอร์ใหม่ในหน้าต่างนี้ได้ทันที ในแต่ละขั้นตอนเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Next เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะได้แฟ้มวีดีโอ นามสกุล .avi
|
รูปที่ 20 แสดงเมนูีีที่ 3 Finish Movie เมื่อสร้างชิ้นงานเรียบร้อยแล้วจะทำการบันทึกเพื่อนำไปใช้ |
|
รูปที่ 21 แสดงการตั้งชื่อแฟ้ม และเลือกตำแหน่งที่เก็บแฟ้ม
หรือสามารถสร้าางโฟลดเดอร์ใหม่ได้ในหน้าต่างนี้ |
|
รูปที่ 21 แสดงการตั้งชื่อแฟ้ม เมื่อเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม Next |
|
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
แสดงผล Movie ที่เกิดจากการทำงานตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 -11
ใช้ Sony Vegas pro 10 ได้ไหม
ตอบลบได้ครับ เหตุที่เลือก Software นี้เนื่องด้วย จะติดตั้งมาพร้อมกับ windows นร.ไม่ต้องยุ่งยากในการหาโปรแกรม แต่ถ้านักเรียน มีโปรแกรมที่ถนัดสามารถทำได้ครับผม
ตอบลบ