วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวการศึกษา

'แท็บเล็ต'ป.1กว่า70%ซอฟต์แวร์พัง

ศูนย์บริการหลังการขาย เผยแท็บเล็ต ป.1 กว่า 4,000 เครื่อง ที่ส่งซ่อมศูนย์ ส่วนใหญ่กว่า 70% มีปัญหาที่ซอฟต์แวร์ อีก 30% มีปัญหาจอแตก และเครื่องตกน้ำ


                         23 พ.ค. 56  นายณัฐวุฒิ พิริยะจีระอนันต์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม จำกัด หรือแอดไวซ์ พันธมิตรศูนย์บริการหลังการขายบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ กล่าวว่า จากการที่ศูนย์บริการแอดไวซ์ทั้ง 140 ศูนย์ทั่วประเทศ ได้ให้บริการซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต ให้กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคปฯ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องแท็บเล็ต สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้กับ คณะกรรมการจัดซื้อแท็บเล็ต  พบว่ามีการนำเครื่องแท็บเล็ตมากกว่า 4,000 เครื่องเข้ามาส่งซ่อมที่ศูนย์ ซึ่งอาการส่วนใหญ่กว่า 70%  มีปัญหาที่ซอฟต์แวร์ และอีก 30 % มีปัญหาด้านจอแตกและเครื่องตกน้ำ 
                         "การแก้ปัญหาที่ผ่านมาทางแอดไวซ์ได้แบ่งเป็นเป็น  2 ประเภท คือ ปัญหาที่อยู่ในเงื่อนไขของประกัน และ  ปัญหาที่อยู่นอกเงื่อนไขประกัน ซึ่งที่อยู่ในเงื่อนไขสามารถเครมประกันได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในด้านของอาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทางศูนย์แอดไวซ์สามารถแก้อาการต่างๆได้ภายใน 5 วัน และในส่วนที่อยู่นอกประกัน เช่นจอแตกและเครื่องตกน้ำต้องส่งกลับไปที่ศูนย์ส่วนกลาง เพื่อให้ส่งเครื่องแทบเล็ตกลับไปให้ทางบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคปฯ ดำเนินการแก้ไขต่อ หรือจัดส่งเครื่องใหม่กลับมา"
                         นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้เห็นปัญหาจากการให้บริการ เพราะเครื่องแทบเล็ตมาจากประเทศจีน ในประเทศไทยไม่ได้มีการผลิตอะไหล่สำรอง ดังนั้นในช่วงแรกที่มีการให้บริการ เมื่อเครื่องมีปัญหากับฮาร์ดแวร์ ครูนำเครื่องมาส่งที่ศูนย์บริการในพื้นที่ แต่ศูนย์ก็ไม่สามารถซ่อมได้ทันที ต้องส่งเครื่องแทบเล็ตกลับมาที่ศูนย์ส่วนกลาง ในการซ่อมเครื่องแทบเล็ตจะใช้เวลานานมาก แต่เมื่อเราเห็นปัญหาจึงจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์ต่างๆทุกศูนย์ และจัดอบรมพนักงานซ่อมเครื่องแทบเล็ตโดยเฉพาะ ให้ไปประจำทุกศูนย์ เพื่อรองรับการให้บริการได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
                         "เครื่องแทบเล็ตของชั้น ป. 1 ที่มีการใช้งานไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีปัญหา แต่ก็ไม่ใช่ว่าพังเสียหายจนนำกลับมาใช้ต่อไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เมื่อมีปัญหาอาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ ทางศูนย์ก็ซ่อมให้จนสามารถนำหลับไปใช้ได้ แต่ที่มีปัญหาหนักๆจนแก้ไขไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหานอกเงื่อนไขประกัน เช่น จอแตก หรือตกน้ำ ซึ่งทางเราไม่สามารถซ่อมให้ได้"  
                         เขากล่าวอีกว่า ในส่วนที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังจะมีการเปิดประมูลการจัดซื้อเครื่องแทบเล็ตในล็อตใหม่ ทางแอดไวซ์ ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ เพราะ เน้นเรื่องของการให้บริการซ่อมบำรุงมากกว่า แต่หากบริษัทใดที่ประมูลได้สนใจจะให้แอดไวซ์เป็นศูนย์บริการรับซ่อมเครื่องแทบเล็ตก็ยินดี เพราะถือว่าแอดไวซ์มีประสบการณ์ในการซ่อมเครื่องแทบเล็ตจากประเทศจีนแล้ว และการจัดซื้อครั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วเครื่องแทบเล็ตก็ต้องผลิตจากประเทศจีน ดังนั้น  สิ่งที่น่าห่วงคือ บริษัทที่จะเข้าประมูลจะต้องเตรียมอุปกรณ์อะไหร่ต่างๆของเครื่องแทบเล็ตให้พร้อมด้วย
                         แหล่งข่าวกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้พอทราบแล้วว่าจะมีบริษัทใดสนใจเข้ามายื่นประมูลจัดซื้อเครื่องแทบเล็ต ป.1 และชั้น ม.1 โดยคาดว่าเป็นบริษัทจากไทย 5 บริษัทและเป็นบริษัทจากประเทศจีน 3 บริษัท ซึ่งในส่วนของการจัดซื้อเครื่องแทบเล็ตไม่มีความกังวล เพราะต้องทำตามกระบวนการจัดซื้อตามระเบียบราชการที่มีการกำหนดเงื่อนไขของทีทีโออาร์ไว้ชัดเจนแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใดที่จะเข้ามายื่นประมูลจัดซื้อ ล้วนแต่สั่งผลิตเครื่องแทบเล็ตจากประเทศจีนทั้งสิ้น จึงมีความกังวลในเรื่องของความคุ้มค่า และคุณภาพของเครื่องแท็บเล็ต แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเครื่องแทบเล็ตจะมาจากประเทศจีน ในร่างทีโออาร์ยังมีข้อกำหนดอื่นๆอีกมากที่จะควบคุมคุณภาพทั้งในเรื่องของตัวเครื่อง

ที่มา : http://www.komchadluek.net/detail/20130523/159220 [สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2556]

การนำเสนอ ที่น่าสนใจ

การแข่งขัน โต้วาที ญัตติ โลกจริงดีกว่า โลกออนไลน์